เมนู

4. อุทยชาดก



ว่าด้วยบารมี 10 ทัศ



[1526] ดูก่อนพระนาง ผู้มีพระวรกายงามหาที่
ติมิได้ มีช่วงพระเพลากลมกลึงผึ่งผาย ทรงวัตถาภรณ์
อันสะอาด เสด็จขึ้นสู่ปราสาทประทับนั่งอยู่พระองค์
เดียว ดูก่อนพระนางผู้มีพระเนตรงามดังเนตรกินนร
หม่อมฉันขอวิงวอนพระนาง เราทั้งสองควรอยู่ร่วมกัน
ตลอดคืนหนึ่งนี้.

[1527] นครนี้มีคูรายรอบ มีป้อมแลซุ้มประตู
มั่นคง มีหมู่ทหารถือกระบี่รักษา ยากที่ใครๆ จะเข้าได้
ทหารนักรบหนุ่มก็ไม่มีเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่าน
ปรารถนามาพบข้าพเจ้าด้วยเหตุอะไรหนอ.

[1528] ดูก่อนพระนางผู้เลอโฉม หม่อมฉัน
เป็นเทพบุตรมาในตำหนักของพระนาง ดูก่อนพระนาง
ผู้เจริญ เชิญพระนางชื่นชมกับหม่อมฉันเถิด หม่อมฉัน
จะถวายถาดทอง อันเต็มด้วยเหรียญทองแก่นาง.

[1529] นอกจากเจ้าชายอุทัยแล้ว ข้าพเจ้าไม่
พึงปรารถนาเทวดา ยักษ์ หรือมนุษย์ผู้อื่นเลย ดูก่อน
เทพบุตรผู้มีอานุภาพมาก ท่านจงไปเสียเถิด อย่ากลับ
มาอีกเลย.

[1530] ความยินดีอันใดเป็นที่สุดของผู้บริโภค
กาม สัตว์ทั้งหลายประพฤติไม่สมควรเพราะเหตุแห่ง
ความยินดีอันใด พระนางอย่าพลาดความยินดี ในทาง
อันสะอาดของพระนางนั้นเลย หม่อมฉันขอถวายถาด
เงินอันเต็มด้วยเหรียญเงินแก่พระนาง.

[1531] ธรรมดาชายหมายจะให้หญิงเอออวย
ด้วยทรัพย์ ย่อมประมูลราคาขึ้นจนให้พอใจ ของท่าน
ตรงกันข้าม ท่านประมูลราคาโดยลดลงดังที่เห็น
ประจักษ์อยู่.

[1532] ดูก่อนพระนางผู้มีพระวรกายงาม อายุ
และวรรณะของหมู่มนุษย์ในมนุษยโลกย่อมเสื่อมลง
ด้วยเหตุนั้นแล แม้ทรัพย์สำหรับพระนางก็จำต้องลดลง
เพราะวันนี้พระนางชราลงกว่าวันก่อน ดูก่อนพระราช
บุตรีผู้มีพระยศ เมื่อหม่อมฉันกำลังเพ่งมองอยู่อย่างนี้
พระฉวีวรรณของพระนางย่อมเสื่อมไป เพราะวันคืน
ล่วงไป ๆ ดูก่อนพระราชบุตรผู้มีปรีชา เพราะเหตุนั้น
พระนางพึงประพฤติพรหมจรรย์เสียวันนี้ทีเดียว จะได้
มีพระฉวีวรรณงดงามยิ่งขึ้นอีก.

[1533] เทวดาทั้งหลายไม่แก่เหมือนมนุษย์หรือ
เส้นเอ็นในร่างกายของเทวดาเหล่านั้นไม่มีหรือ ดูก่อน
เทพบุตร ข้าพเจ้าขอถามท่านผู้มีอานุภาพมาก ร่างกาย
ของเทวดาเป็นอย่างไร.

[1534] เทวดาทั้งหลายไม่แก่เหมือนมนุษย์
เส้นเอ็นในร่างกายของเทวดาเหล่านั้นไม่มี ฉวีวรรณ
อันเป็นทิพย์ของเทวดาเหล่านั้น ผุดผ่องยิ่งขึ้นทุก ๆ วัน
และโภคสมบัติก็ไพบูลย์ขึ้น.

[1534] หมู่ชนเป็นอันมากในโลกนี้ กลัวอะไร
เล่า จึงไม่ไปเทวโลกกัน ก็หนทางไปเทวโลกบัณฑิต
ทั้งหลายกล่าวไว้หลายด้าน ดูก่อนเทพบุตรผู้มีอานุภาพ
มาก ข้าพเจ้าขอถามท่านว่า บุคคลตั้งอยู่ในหนทางไหน
จึงจะไม่กลัวปรโลก.

[1536] บุคคลผู้ตั้งวาจาและใจไว้โดยชอบ ไม่
กระทำบาปด้วยกาย อยู่ครองเรือนอันมีข้าวและน้ำมาก
เป็นผู้มีศรัทธา อ่อนโยน จำแนกแจกทาน รู้ความ
ประสงค์ ชอบสงเคราะห์ มีถ้อยคำกลมกล่อม อ่อน
หวาน ผู้ตั้งอยู่ในคุณธรรมดังกล่าวมานี้ ไม่พึงกลัว
ปรโลก.

[1537] ข้าแต่เทพบุตร ท่านพร่ำสอนข้าพเจ้า
เหมือนมารดาบิดา ข้าแต่ท่านผู้มีผิวพรรณงามยิ่ง ข้าพ-
เจ้าขอถาม ท่านเป็นใครหนอ จึงมีร่างกายสง่างามนัก.

[1538] ดูก่อนพระนางผู้เลอโฉม ข้าพเจ้าเป็น
พระเจ้าอุทัย มาในที่นี้เพื่อต้องการจะเปลื้องข้อผูกพัน
ข้าพเจ้าบอกพระนางแล้ว จะขอลาไป ข้าพเจ้าพ้นจาก
ข้อผูกพันของพระนางแล้ว.

[1539] ข้าแต่พระลูกเจ้า ถ้าพระองค์เป็น
พระเจ้าอุทัยเสด็จมา ณ ที่นี้ เพื่อต้องการจะเปลื้องข้อ

ผูกพันไซร้ ข้าแต่พระราชบุตร ขอเชิญพระองค์จง
โปรดพร่ำสอนหม่อมฉัน ด้วยวิธีที่เราทั้งสองจะได้พบ
กันใหม่อีกเถิด เพค๊ะ.

[1540] วัยล่วงไปเร็วยิ่งนัก ขณะก็เช่นนั้น
เหมือนกัน ความตั้งอยู่ยั่งยืนไม่มี สัตว์ทั้งหลายย่อม
จุติไปแน่แท้ สรีระไม่ยั่งยืน ย่อมเสื่อมถอย ดูก่อน
พระนางอุทัย เธออย่าประมาท จงประพฤติธรรม
พื้นแผ่นดินทั้งสิ้นเต็มไปด้วยทรัพย์ ถ้าพึงเป็นของของ
พระราชาพระองค์เดียว ไม่มีผู้อื่นครอบครอง ถึง
กระนั้น ผู้ที่ยังไม่ปราศจากความกำหนัดก็ต้องทิ้ง
สมบัตินั้นไป ดูก่อนพระนางอุทัย เธออย่าประมาท
จงประพฤติธรรม มารดา บิดา พี่ชาย น้องชาย พี่สาว
น้องสาว ภรรยาและสามีพร้อมทั้งทรัพย์ แม้เขาเหล่า
นั้นต่างก็จะละทิ้งกันไป ดูก่อนพระนางอุทัย เธออย่า
ประมาท จงประพฤติธรรม ดูก่อนพระนางอุทัย เธอ
พึงทราบว่า ร่างกายเป็นอาหารของสัตว์อื่น ๆ พึง
ทราบว่า สุคติและทุคติในสงสารเป็นที่พักชั่วคราวเธอ
อย่าประมาท จงประพฤติธรรมเถิด.

[1541] เทพบุตรพูดดีจริง ชีวิตของสัตว์ทั้ง
หลายน้อย ทั้งลำเค็ญ ทั้งนิดหน่อย ทั้งประกอบไป
ด้วยทุกข์ หม่อมฉันจักสละสุรุนธนนคร แคว้นกาสี
ออกบวชอยู่ลำพังผู้เดียว.

จบอุทยชาดกที่ 4

อรรถกถาอุทยชาดก



พระศาสดา เมื่อเสด็จประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรง
พระปรารภภิกษุผู้เบื่อหน่าย ได้ตรัสพระธรรมเทศนานี้มีคำเริ่มต้นว่า เอกา
นิสินฺนา
ดังนี้. เรื่องจักมีแจ้งในกุสชาดกข้างหน้า.
ก็พระศาสดา ตรัสถามภิกษุนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ จริงหรือที่ว่าเธอเป็น
ผู้เบื่อหน่ายแล้ว เมื่อเธอกราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
เหตุไรเล่า เธอบรรพชาในพระศาสนา อันเป็นที่นำสัตว์ออกจากทุกข์เห็นปานนี้
ยังเป็นผู้เบื่อหน่ายด้วยอำนาจกิเลส แม้แต่บัณฑิตในปางก่อน เสวยราชสมบัติ
ณ สุรุนธนนคร มีบริเวณได้ 12 โยชน์ อันมั่งคั่ง ถึงจะอยู่ร่วมห้องกับหญิง
ผู้เทียบเท่านางเทพอัปสร ตลอด 700 ปี ก็ยังมิได้ทำลายอินทรีย์ แลดูด้วย
อำนาจความโลภเลย ดังนี้แล้ว จึงทรงนำอดีตนิทานมาดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้ากาสีเสวยราชสมบัติ ณ สุรุนธนนคร
แคว้นกาสี.
พระองค์ไม่เคยมีพระโอรสหรือพระธิดาเลย. พระองค์ตรัสกับ
พระเทวีทั้งหลายของพระองค์ว่า พวกเธอจงพากันปรารถนาบุตรเถิด. พระราช
เทวี รับพระราชดำรัสแล้ว ได้ทรงกระทำเช่นนั้น. ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์
จุติจากพรหมโลก ถือปฏิสนธิในพระอุทรแห่งพระอัครมเหสีของพระราชา.
ลำดับนั้น พระประยูรญาติ ทรงขนานพระนามพระราชกุมารนั้นว่าอุทัยภัทร
เพราะทรงบังเกิดทำให้หทัยของมหาชนจำเริญ. ในกาลที่พระราชกุมารทรง
ย่างพระบาทไปได้ สัตว์ผู้อื่นจุติจากพรหมโลก บังเกิดเป็นกุมาริกา ในพระ
อุทรของพระเทวี พระองค์ใดพระองค์หนึ่งของพระราชาพระองค์นั้นแล. พระ
ประยูรญาติ ทรงขนานพระนามพระราชกุมารีนั้นว่า อุทัยภัทรา. พระราช